พระมหากษัตริย์ไทย เป็นหมายความถึงราชาธิปไตยและราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของราชอาณาจักรของคนไทยในอดีต มาจนถึงประเทศไทยในปัจจุบัน
พระมหากษัตริย์ไทยเป็นประมุขแห่งรัฐของประเทศไทย และเป็นผู้นำราชวงศ์จักรีในปัจจุบัน มีที่ประทับอย่างเป็นทางการ คือ พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร และเนื่องจากว่า ประเทศไทยมีการปกครองในรูปแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ พระราชอำนาจถูกจำกัดโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยทรงเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแต่เพียงในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยก็ยังคงได้รับความเคารพนับถือจากประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก
พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของไทย คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือเรียกว่า "รัชกาลที่ 9" ทรงครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ทำให้พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงราชย์ในฐานะประมุขแห่งรัฐที่นานที่สุดในโลก อำนาจของพระมหากษัตริย์ถูกใช้ผ่านทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล แต่ตามรัฐธรรมนูญแล้ว พระองค์ก็ยังคงมีพระราชอำนาจอยู่มาก เช่น ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ทรงมีพระราชอำนาจพิเศษในพระบรมราชานุมัติ และการพระราชทานอภัยโทษ ทรงเป็นพุทธมามกะและอัครศาสนูปถัมภก
ถึงแม้ว่าพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์จะลดลงหลังจากการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2475 แต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามและราชอาณาจักรไทยทุกฉบับได้ระบุถึงพระมหากษัตริย์ไว้ว่า "[พระองค์] ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้" นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญยังได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ไม่สามารถถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ อีกทั้งยังถูกคุ้มครองอยู่ภายใต้กฎหมายอาญาอันเป็นที่รู้จักกันในประเทศตะวันตกว่า กฎหมายว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทำให้การประทุษร้าย การดูหมิ่น การหมิ่นประมาทและการอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ถือว่าความผิดตามกฎหมาย[1]
รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงพระองค์ปัจจุบันของพระมหากษัตริย์ไทย หรือสยามมกุฎราชกุมาร คือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ อันเป็นไปตามกฏมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 โดยรูปแบบของการสืบราชสันติวงศ์จะสืบทอดจากพระราชบิดาไปสู่พระราชบุตรตามสิทธิของบุตรคนแรกที่เป็นชายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยสองฉบับสุดท้ายได้แก้ไขบัญญัติของกฎมณเฑียรบาล โดยทำให้พระราชบุตรีสามารถสืบราชสันติวงศ์ได้ด้วยเช่นกัน
พระมหากษัตริย์ไทยเป็นประมุขแห่งรัฐของประเทศไทย และเป็นผู้นำราชวงศ์จักรีในปัจจุบัน มีที่ประทับอย่างเป็นทางการ คือ พระบรมมหาราชวัง กรุงเทพมหานคร และเนื่องจากว่า ประเทศไทยมีการปกครองในรูปแบบราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ พระราชอำนาจถูกจำกัดโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย โดยทรงเป็นผู้ใช้อำนาจอธิปไตยแต่เพียงในนามเท่านั้น อย่างไรก็ตาม สถาบันพระมหากษัตริย์ไทยก็ยังคงได้รับความเคารพนับถือจากประชาชนชาวไทยเป็นอย่างมาก
พระมหากษัตริย์องค์ปัจจุบันของไทย คือ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช หรือเรียกว่า "รัชกาลที่ 9" ทรงครองราชสมบัติเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ทำให้พระองค์ทรงเป็นพระมหากษัตริย์ที่ทรงราชย์ในฐานะประมุขแห่งรัฐที่นานที่สุดในโลก อำนาจของพระมหากษัตริย์ถูกใช้ผ่านทางรัฐสภา คณะรัฐมนตรี และศาล แต่ตามรัฐธรรมนูญแล้ว พระองค์ก็ยังคงมีพระราชอำนาจอยู่มาก เช่น ทรงดำรงตำแหน่งจอมทัพไทย ทรงมีพระราชอำนาจพิเศษในพระบรมราชานุมัติ และการพระราชทานอภัยโทษ ทรงเป็นพุทธมามกะและอัครศาสนูปถัมภก
ถึงแม้ว่าพระราชอำนาจของพระมหากษัตริย์จะลดลงหลังจากการปฏิวัติในปี พ.ศ. 2475 แต่รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรสยามและราชอาณาจักรไทยทุกฉบับได้ระบุถึงพระมหากษัตริย์ไว้ว่า "[พระองค์] ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้" นอกจากนั้น รัฐธรรมนูญยังได้บัญญัติให้พระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ไม่สามารถถูกดำเนินคดีตามกฎหมายได้ไม่ว่าในกรณีใด ๆ อีกทั้งยังถูกคุ้มครองอยู่ภายใต้กฎหมายอาญาอันเป็นที่รู้จักกันในประเทศตะวันตกว่า กฎหมายว่าด้วยการหมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ทำให้การประทุษร้าย การดูหมิ่น การหมิ่นประมาทและการอาฆาตมาดร้ายต่อพระมหากษัตริย์ถือว่าความผิดตามกฎหมาย[1]
รัชทายาทผู้มีสิทธิโดยตรงพระองค์ปัจจุบันของพระมหากษัตริย์ไทย หรือสยามมกุฎราชกุมาร คือ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ อันเป็นไปตามกฏมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 โดยรูปแบบของการสืบราชสันติวงศ์จะสืบทอดจากพระราชบิดาไปสู่พระราชบุตรตามสิทธิของบุตรคนแรกที่เป็นชายเท่านั้น อย่างไรก็ตาม รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยสองฉบับสุดท้ายได้แก้ไขบัญญัติของกฎมณเฑียรบาล โดยทำให้พระราชบุตรีสามารถสืบราชสันติวงศ์ได้ด้วยเช่นกัน
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น